การบันทึกเสียงในวิดีโอ (audio for video)
เสียงสำหรับวิดีโอ
ในอดีตที่ผ่านมาเรื่องของเสียงในวงการโทรทัศน์ถูกมองข้ามโดยไม่ให้ความสำคัญมากนัก
ทั้งจากผู้ผลิตรายการเองและรวมไปถึงบริษัทโรงงานผู้ผลิตอุปกรณ์เองด้วย โดยไปให้ความสำคัญกับส่วนของภาพมากกว่า ด้วยการใช้อุปกรณ์ในระบบบันทึกเสียงราคาถูกหรือการใช้ลำโพงขนาดเล็กๆบนเครื่องรับโทรทัศน์เป็นต้น
แต่ทว่าอย่างไรก็ดีถ้าเราอยากทราบความสำคัญของเสียงที่มีต่อการผลิตวิดีโอแล้วแค่ลองปิดเสียงและพยายามติดตามเนื้อหาเรื่องราวจะพบว่าเป็นการยากที่จะติดตามชม
แต่ถ้าในทางตรงกันข้ามโดยการไม่ต้องมองภาพบนจอแต่เปิดเสียงตามปกติเราสามารถติดตามเรื่องราวได้
ดังนั้นเสียงย่อมมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าภาพเลยเพราะเสียงย่อมทำให้ภาพมีความสมจริงมากยิ่งขึ้น มันทำให้ผู้ชมรู้สึกว่ามีส่วนร่วมและเสมือนอยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วย
ก่อนจะเข้าสู่เนื้อหาของเสียงในวงการวิดีโอลองทำความรู้จักกับคำศัพท์เรื่องเสียงที่พบกันบ่อยสักเล็กน้อยก่อนครับ
Audio filters ใช้ทำหน้าที่ลดเสียงรบกวนเช่น เสียงการจราจร เสียงเครื่องปรับอากาศ
หรือเสียงในสภาวะแวดล้อมที่ไม่ต้องการ
Audio mixer ใช้สำหรับการเลือก การปรับแต่งควบคุมเสียงจากแหล่งกำเนิดเสียงหลายแหล่งเข้าด้วยกัน
ทั้งนี้อาจรวมไปถึงวงจรไฟฟ้าที่ทำหน้าที่กรองเสียง การควบคุมเสียงก้องหรือหน้าที่อื่นๆ
Bidirectional
microphone เป็นไมโครโฟนชนิดที่สามารถรับเสียงได้เท่ากันทั้งด้านหน้าและด้านหลังแต่จำกัดเสียงที่มาจากด้านข้าง(เป็นรูปเลขแปด)
Compressor/expander ใช้เพื่อทำหน้าที่ลดหรือเน้นอัตราความดังที่แตกต่างกันมากๆ
Condenser microphone
เป็นไมโครโฟนคุณภาพสูงที่สามารถลดขนาดให้เล็กลงได้และจำเป็นต้องมีแหล่งจ่ายไฟฟ้าด้วยแบตเตอรี่หรือจากเครื่องมิกเซอร์ขณะใช้งาน
Directional microphone
ไมโครโฟนชนิดนี้สามารถรับเสียงเฉพาะทิศทางตรงจากด้านหน้าและจำกัดเสียงด้านอื่น
Dynamic microphone
เป็นไมโครโฟนขนาดกะทัดรัดที่ใช้งานทั่วไปไม่จำเป็นต้องใช้แหล่งจ่ายไฟฟ้า ให้น้ำเสียงตามธรรมชาติ
Handheld microphone เป็นไมโครโฟนแบบมือถือที่ผู้สื่อข่าวหรือนักร้องนิยมใช้กัน
Omnidirectional microphone เป็นไมโครโฟนชนิดที่รับเสียงได้รอบตัวมีระดับเท่ากันทุกทิศทาง
Shotgun microphone
เป็นไมโครโฟนชนิดที่รูปแบบการรับเสียงเป็นทิศทางแคบแต่สามารถรับเสียงจากระยะไกลได้ดี
Graphic equalizer
อุปกรณ์ชนิดนี้จะมีชุดของการปรับแต่งเสียงที่เลื่อนขึ้นลงได้หลายอันใช้เพื่อเพิ่มหรือลดเสียงที่ย่านความถี่ต่างๆตามต้องการ
Limiter เป็นอุปกรณ์สำหรับป้องกันเสียงที่อาจจะดังเกินไปและทำให้อุปกรณ์ที่ต่อเชื่อมเกิดความเสียหายหรือเกิดอาการเสียงเพี้ยนขึ้นได้ เป็นวงจรไฟฟ้าที่ทำหน้าที่ลดระดับของสัญญาณลงอย่างอัตโนมัติและควบคุมระดับของสัญญาณให้เป็นไปตามต้องการ
Patch panel/jackfield
เป็นอุปกรณ์ที่มีช่องเสียบสัญญาณเรียงกันเป็นแถวที่มีทั้งสัญญาณขาเข้าและขาออกสำหรับเชื่อมต่ออุปกรณ์ในระบบเสียง
Preamplifier เป็นเครื่องขยายระดับของสัญญาณเสียงที่มีระดับต่ำมากๆเช่นไมโครโฟนให้อยู่ในระดับเหมาะสมเพื่อนำไปใช้งานหรือเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นได้
Stereo ระบบเสียงแบบสเตอริโอใช้วิธีการรับส่งและบันทึกเสียงแบบสองช่องทางเพื่อก่อให้เกิดมิติและทิศทางขณะรับฟัง
Surround เป็นระบบเสียงที่มีมากกว่าสองช่องเสียงขึ้นไปเช่น 5.1 ช่องหรืออาจเป็น 7.1 ช่อง
เพื่อก่อให้เกิดเสียงรอบทิศทางอันเป็นการเพิ่มอรรถรสในการชมมากยิ่งขึ้น
คุณลักษณะของเสียงตามธรรมชาติ
ในโลกของสิ่งแวดล้อมรอบตัวเราย่อมเต็มไปด้วยเสียงต่างๆมากมายและยากที่จะเชื่อว่าแต่ละเสียงนั้นประกอบไปด้วยรูปแบบของการสั่นสะเทือนที่ซับซ้อนประกอบกัน
และเมื่อนำเสียงจากแหล่งกำเนิดเสียงหลายแหล่งกำเนิดมารวมกันแล้วยิ่งก่อให้เกิดรูปแบบที่ซับซ้อนหลากหลายมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นหูของเราเอง
หรือว่าเป็นแผ่นไดอะแฟรมของไมโครโฟนไปจนกระทั่งลำโพง ทั้งหมดนี้ล้วนมีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำไปแปลความหมายของเสียงด้วยสมองของเราทั้งนั้น
การสั่นสะเทือนของเสียงที่เป็นรูปแบบอย่างง่ายที่สุดย่อมก่อให้เกิดรูปคลื่นชนิดไซน์เวฟและเราสามารถได้ยินเสียงประเภทนี้ที่เกิดจากซ่อมเสียง ขลุ่ย
หรือเกิดจากตัวสร้างความถี่เสียง(audio oscillator) การสั่นสะเทือนของเสียงด้วยความถี่ต่ำย่อมเกิดเสียงต่ำ
และถ้าการสั่นสะเทือนมีความเร็วมากยิ่งขึ้นย่อมได้ยินเสียงที่สูงตามไป
แต่ทั้งนี้ความสามารถของหูมนุษย์มีจำกัดอยู่ที่ไม่เกิน 20000 ครั้งต่อวินาที
อัตราของการสั่นสะเทือนนี้มีหน่วยนับเป็นเฮิทซ์(hertz)
การสั่นสะเทือนที่แรงมากขึ้นย่อมก่อให้เกิดเสียงที่ดังมากยิ่งขึ้น(amplitude) เสียงที่ดังเกินไปสามารถทำให้ผู้รับฟังปวดหูหรือเกิดอันตรายถ้าเสียงดังเกินขอบเขต
มีเพียงเสียงส่วนน้อยเท่านั้นที่เกิดจากความถี่เดียวโดดๆ(fundamental) เสียงส่วนใหญ่ย่อมประกอบด้วยการผสมผสานเสียงที่ซับซ้อนหลายความถี่รวมกัน(harmonics or overtones) คุณภาพของเสียงที่ดีย่อมขึ้นอยู่กับความเข้มของอัตราส่วนผสมหรือความเกี่ยวข้องกับเสียงที่ซับซ้อนหลากหลายความถี่รวมกันนี้การสั่นสะเทือนที่แรงมากขึ้นย่อมก่อให้เกิดเสียงที่ดังมากยิ่งขึ้น(amplitude) เสียงที่ดังเกินไปสามารถทำให้ผู้รับฟังปวดหูหรือเกิดอันตรายถ้าเสียงดังเกินขอบเขต
เสียงทีเกิดจากการพูด หรือว่าเสียงของตัวโน้ตที่เกิดจากเครื่องดนตรีประเภทต่างๆสามารถตัดสินจากคุณภาพโดยรวมทั้งหมด
ถ้าหากว่าการตอบสนองของระบบเสียงไม่สามารถคลอบคลุมย่านความถี่ที่เกิดขึ้นจริงทั้งหมด(อาจมีสาเหตุจากการใช้ตัวกรองเสียงหรือข้อจำกัดของตัวอุปกรณ์เครื่องมือเอง)
ส่วนประกอบของเสียงทั้งหมดที่ได้รับย่อมถูกจำกัดตาม
ดังนั้นคุณภาพของเสียงที่ออกมาอาจผิดเพี้ยนทำให้เป็นการยากที่จะจดจำได้ว่าเป็นเสียงที่เกิดจากเครื่องดนตรีชนิดใด
Acoustics
เราแค่ทำการทดลองเปรียบเทียบระหว่างเสียงที่เกิดจากห้องอันว่างเปล่ากับห้องเดิมที่ได้มีการตกแต่งเครื่องเฟอร์นิเจอร์แล้วหรืออาจเป็นห้องที่เต็มไปด้วยผู้คนแล้วจะพบว่าสภาพของอคูสะติคส์ที่ต่างกันมีผลต่อความแตกต่างของคุณภาพเสียงอย่างไร ทั้งนี้ถ้าหากว่าเรามีความเข้าใจถึงกฎเกณฑ์ขั้นพื้นฐานของเรื่องอคูสะติคส์แล้ว
เราก็ย่อมสามารถหลีกเลี่ยงปัญหาของระบบเสียงที่อาจเพิ่มขึ้นขณะทำการผลิตรายการได้
เมื่อคลื่นเสียงเดินทางมากระทบกับพื้นผิวที่แข็งเช่นพลาสติก แก้ว โลหะ
หรือผนังที่เป็นหินจะมีการถูกดูดซับเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เสียงส่วนใหญ่เกือบทั้งหมดจะสะท้อนกลับออกมาที่ระดับความดังใกล้เคียงกับเสียงดั้งเดิม สภาพแบบนี้หมายถึงสภาวะแวดล้อมมีชีวิตชีวา(live) ตัวอย่างเช่นในห้องน้ำ
ห้องที่มีขนาดใหญ่เช่นในโบสถ์ย่อมก่อให้เกิดเสียงที่ก้องกังวานเพราะว่าคลื่นเสียงสามารถสะท้อนจากพื้นผิวด้านหนึ่งไปยังอีกด้านหนึ่งได้ง่าย ทั้งเสียงดั้งเดิมและเสียงที่เกิดจากการสะท้อนจะผสมผสานกันให้เกิดอาการก้องกังวาน
อาการเหล่านี้สามารถก่อให้เกิดผลกระทบถึงคุณภาพของเสียงทั้งหมดและเป็นเหตุสำคัญของการลดความชัดเจนลงไป
ในสภาวะแวดล้อมที่มีเสียงก้องกังวานมากๆอาจมีเสียงต่อเนื่องหลายวินาทีกว่าจะหยุด ทั้งนี้ยังขึ้นอยู่กับการออกแบบขนาดและมิติของห้อง และตำแหน่งของแหล่งกำเนิดเสียงหรือตำแหน่งการวางไมโครโฟนรวมไปถึงย่านความถี่ใดๆที่มีผลแตกต่างกันด้วย
ในขณะทีคลื่นเสียงตกกระทบกับพื้นผิวที่อ่อนนุ่มเช่นผืนพรม
หรือผ้าม่านแล้วพลังงานของมันบางส่วนจะถูกดูดซับไว้ที่ตัววัสดุเอง พื้นผิวที่อ่อนนุ่มย่อมก่อให้เกิดสภาวะแวดล้อมแบบเสียงตาย(dead)ดังนั้นเสียงส่วนใหญ่จะถูกดูดซับเอาไว้ทำให้เสียงที่สะท้อนออกมาจากพื้นผิวนั้นๆน้อยและเบากว่าเสียงตั้งต้นมาก นอกจากนี้เสียงที่มีความถี่สูงยังถูกกักเก็บไว้ก่อให้เกิดเสียงที่นุ่มนวลอ่อนหวานและมีความก้องกังวานน้อย
การแก้ไขสภาพแวดล้อมทางเสียง
วิธีการแก้ไขห้องที่มีเสียงก้องเกินไป
1 นำเอาไมโครโฟนไว้ใกล้แหล่งกำเนิดเสียงมากที่สุด
2 แขวนผ้าม่านถ้าหากว่าสามารถทำได้
3 เพิ่มด้วยผืนพรม
4 เพิ่มด้วยเบาะรองนั่งและหมอน
5 ใช้เฟอร์นิเจอร์ชนิดบุด้วยผ้านวม
6 ประดับตกแต่งห้องด้วยผืนผ้าที่แขวนอยู่ในกรอบ
7 เพิ่มเติมด้วยวัสดุที่ผลิตมาเพื่อการดูดซับเสียงโดยเฉพาะ
การแก้ปัญหาที่เกิดจากห้องสภาพเสียงตายเพื่อเพิ่มการสะท้อนก้องกังวาน
1 เอาไมโครโฟนออกห่างจากแหล่งกำเนิดเสียง
2 เอาผ้าม่านออกเพื่อเพิ่มพื้นผิวที่แข็งกระด้าง
3 เอาผืนพรมออกไป
4 เอาหมอนและเบาะรองนั่งออกไป
5 เอาเฟอร์นิเจอร์ที่บุด้วยนวมออกไป
6 เพิ่มเติมด้วยแผ่นพลาสติกแข็ง
7 เพิ่มเติมพื้นที่ทำด้วยวัสดุแข็งเช่นไม้หรือกระเบื้อง
8 ใช้อุปกรณ์เครื่องมือเพิ่มความก้องกังวานของเสียง
Mono and
Stereo and Surround Sound
ในชีวิตประจำวันของคนที่เป็นปกติย่อมใช้หูทั้งสองข้างเพื่อรับฟังสียงที่เกิดขึ้นรอบๆตัว
จากการที่รับฟังด้วยหูทั้งสองข้างแล้วนำมาเปรียบเทียบกัน
ทำให้สามารถสร้างความรับรู้ให้เป็นสามมิติขึ้นมาได้ทั้งด้านของทิศทางและระยะใกล้ไกลของเสียง ในกรณีของเสียงจากเครื่องรับโทรทัศน์ที่มีลำโพงเพียงตัวเดียวแล้วก็เปรียบเสมือนกับคนที่มีหูเพียงข้างเดียวที่ไม่สามารถรับรู้ถึงระยะห่างและทิศทางของเสียงได้
ดังนั้นเมื่อเราฟังเสียงที่เป็นระบบโมโนแล้วจะไม่สามารถแยกแยะความแตกต่างระหว่างเสียงทางตรงและเสียงที่เกิดจากการสะท้อนได้เหมือนในกรณีที่รับฟังเสียงจากระบบสะเตอริโอ
ด้วยเหตุนี้เสียงทีออกมาจึงมักขุ่นมัวและมีความแตกต่างอย่างชัดเจนจากความเป็นจริง
ด้วยเหตุนี้ระบบเสียงแบบโมโนจึงควรหลีกเลี่ยงการทำเอ็ฟเฟ็คพิเศษของเครื่องเพิ่มเสียงก้องเข้าไป
เพราะว่าผู้รับฟังไม่สามารถแยกแยะทิศทางและระยะใกล้ไกลของระบบเสียงแบบโมโน
ดังนั้นการใช้ไมโครโฟนในระบบโมโนจำเป็นต้องระมัดระวังเรื่องตำแหน่งการวางไมโครโฟนให้รอบคอบเช่นอย่าให้รับเสียงที่มีการสะท้อนกลับมา เสียงที่ดังมากๆอาจไปบดบังเสียงที่ค่อยกว่าได้
หรือเสียงที่ไม่เกี่ยวข้องต้องไม่ไปรบกวนเสียงที่ต้องการรับฟัง เป็นต้น
ในกรณีของเสียงแบบสะเตอริโอสามารถสร้างสรรค์ให้เกิดมิติและทิศทางของเสียงและยังเพิ่มความชัดเจน
มากยิ่งขึ้น
ระบบเสียงแบบสะเตอริโอทำให้ผู้ชมสามารถระบุตำแหน่งและทิศทางได้ช่วยให้ผู้ชมสัมผัสถึงความลึกและตระหนักถึงมิติของทั้งภาพและเสียง แต่อย่างไรก็ดีด้วยข้อจำกัดของลำโพงที่อยู่ใกล้ชิดกันบนเครื่องรับโทรทัศน์ผลที่ได้รับย่อมมีข้อจำกัด
ถึงแม้ว่าคุณภาพของเสียงและความสมจริงจะเพิ่มขึ้นมาแต่ก็ยังมีข้อจำกัดทิศทางและความลึกยังด้อยอยู่บ้าง
ในกรณีของระบบเสียงแบบเซอรราวนที่ทำการผสมเสียงมาอย่างถูกต้องย่อมให้ผลลัพธ์ที่เหนือกว่าระบบโมโนและระบบสะเตอริโอเป็นอย่างมาก สำหรับระบบที่เป็นชนิด 5.1 ช่องนั้นจะมีเสียงออกมาทั้งหมดหกอย่างด้วยกันซึ่งประกอบด้วย ลำโพงเสียงตรงกลาง ลำโพงด้านหน้าซ้ายและขวา ลำโพงด้านหลังซ้ายและขวา และลำโพงซับวูฟเฟอร์สำหรับก่อให้เกิดเสียงความถี่ต่ำโดยเฉพาะ
ลำโพงทั้งหมดนี้สามารถทำให้เกิดความรู้สึกสมจริงทั้งมิติทิศทางและ
ระยะใกล้ไกลของเสียงรอบตัวผู้ชมได้
มีไมโครโฟนให้เลือกใช้งานหลากหลายประเภทและรูปแบบ ทั้งหมดย่อมทำหน้าที่เปลี่ยนคลื่นเสียงให้เป็นพลังงานไฟฟ้า แต่การเลือกนำมาใช้งานต้องศึกษารายละเอียดและคุณสมบัติให้ถี่ถ้วนเพื่อที่จะได้รับผลตรงตามความต้องการ
คุณลักษณะด้านทิศทางการรับเสียง
ไมโครโฟนแต่ละประเภทมีพฤติกรรมที่แตกต่างกันไป บ้างก็ถูกออกแบบให้รับเสียงได้รอบตัวทุกทิศทางในขณะที่อีกประเภทหนึ่งได้รับการออกแบบให้รับเสียงได้เฉพาะทิศทางที่กำหนด สำหรับข้อดีของชนิดที่รับเสียงได้รอบตัวก็คือมันสามารถรับเสียงได้เป็นบริเวณกว้าง ถ้าในกรณีที่ต้องการใช้รับเสียงจากคนกลุ่มใหญ่หรือว่าเป็นคนเดียวแต่เคลื่อนไหวไปรอบบริเวณ แต่ทว่าข้อเสียของมันก็คือไม่สามารถเลือกรับเสียงที่ต้องการหรือหลีกเลี่ยงเสียงที่ไม่ต้องการได้เช่นเสียงรบกวนรอบข้างหรือว่าเสียงที่เกิดจากการสะท้อนกลับมาจากผนัง ดังนั้นการใช้งานจำเป็นต้องให้อยู่ใกล้กับแหล่งกำเนิดเสียงที่ต้องการมากที่สุด ไมโครโฟนชนิดนี้เหมาะสำหรับใช้เก็บเสียงสภาพแวดล้อมตามธรรมชาติ
ในการใช้งานไมโครโฟนชนิดที่มีรูปแบบการรับเสียงแบบทิศทางด้วยการหันด้านรับเสียงไปยังแหล่งกำเนิดเสียง มันสามารถที่จะปฏิเสธการรับเสียงด้านอื่นที่ไม่ต้องการได้ทำให้ได้รับเสียงที่สะอาดแจ่มใส ถ้าพิจารณาในอีกแง่มุมหนึ่งแล้วการใช้งานไมโครโฟนประเภทนี้จำเป็นต้องระมัดระวังเรื่องการหันด้านที่รับเสียงอย่างถูกต้องแม่นยำ และที่สำคัญแหล่งกำเนิดเสียงต้องไม่เคลื่อนไหวออกจากตำแหน่งการรับเสียงด้วย รูปแบบการรับเสียงของไมโครโฟนชนิดมีทิศทางเป็นประเภท cardioid หรือ hyper cardioid จะสามารถจำกัดการรับเสียงจากด้านหลังได้ดี
ไมโครโฟนที่นิยมใช้กัน
การเปลี่ยนพลังงานคลื่นเสียงให้เป็นพลังงานไฟฟ้ามีวิธีการอยู่สองทางเลือกใหญ่เท่านั้นคือ electrodynamic and electrostatic สำหรับชื่อที่รู้จักกันทั่วไปคือไมโครโฟนแบบไดนามิคและไมโครโฟนแบบคอนเด็นเซอร์
ไดนามิคไมโครโฟนส่วนใหญ่มักแข็งแรงทนทานและให้คุณภาพเสียงดี เสียงไม่ค่อยเพี้ยนได้ง่ายในกรณีที่รับเสียงค่อนข้างดังเช่นนำไปไว้รับเสียงกลอง ไมโครโฟนเหล่านี้ต้องการการดูแลรักษาพอประมาณสามารถจับถือด้วยมือโดยไม่ก่อให้เกิดปัญหาเสียงรบกวนที่เกิดจากมือผู้ใช้ หรืออาจนำไปใช้งานแบบติดตั้งเข้ากับขาตั้งก็ได้
สำหรับคอนเด็นเซอร์ไมโครโฟนสามารถให้คุณภาพเสียงที่สูงมากและมีความเหมาะสมสำหรับใช้เก็บเสียงจากเครื่องดนตรีแทบทุกชนิด จุดเด่นที่สำคัญของมันก็คือสามารถทำให้มีขนาดเล็กมากมีความเหมาะสมในการทำงานสำหรับวิดีโอได้ดี โดยปกติแล้วจำเป็นต้องมีแหล่งจ่ายไฟฟ้าให้กับมันด้วยอาจเป็นแบตเตอรี่ขนาดเล็กหรือจากแหล่งจ่ายไฟภายนอกก็ได้ นอกจากนี้ยังมีชนิดที่ไม่จำเป็นต้องใช้แหล่งจ่ายพลังงานให้ก็มีเพราะว่าทางโรงงานผู้ผลิตได้ทำการประจุพลังงานแบบถาวรมาให้แล้ว ไมโครโฟนชนิดนี้มีชื่อเรียกว่า electret condenser microphone
ถ้าหากว่าตัวกล้องมีไมโครโฟนติดมาด้วย ในทางทฤษฎีแล้วเมื่อเราหันกล้องไปจับภาพตรงไหนตัวไมโครโฟนก็ควรรับเสียงอย่างมีคุณภาพของบริเวณนั้นด้วย แต่ทว่าอย่างไรก็ดีทั้งหมดขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและรูปแบบของเสียงที่เกี่ยวข้อง ไม่มีอะไรที่จะสมบูรณ์พร้อมไปทุกอย่างแม้ว่าเราจะใช้ไมโครโฟนคุณภาพสูงและติดตั้งอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมก็ตาม การทำงานแบบตัวคนเดียวและเคลื่อนไหวตำแหน่งและมุมกล้องไปรอบๆตลอดเวลาย่อมทำให้เสียงที่ได้รับแตกต่างกันไปด้วย
รูปแบบอย่างง่ายที่สุดของไมโครโฟนติดกล้องก็คือมีขนาดเล็กและติดไว้ด้านหน้าของตัวกล้อง ตัวไมโครโฟนแบบนี้ย่อมเก็บเสียงทีอยู่รอบตัวกล้องไปด้วย รวมทั้งเสียงรบกวนที่เกิดจากการทำงานของเลนส์ซูมและรวมไปถึงเสียงที่เกิดจากตัวช่างกล้องเอง ข้อควรระวังของไมโครโฟนประเภทนี้ก็คือมันเหมาะสมต่อการใช้งานเก็บเสียงบรรยากาศสภาพแวดล้อมเช่นสภาพการจราจรหรือฝูงชนและเกือบจะดีพอถ้าให้ผู้พูดอยู่ใกล้ตำแหน่งไมโครโฟนมากๆ มันควรจะถูกใช้งานสำหรับเสียงคนพูดก็ต่อเมื่อไม่มีทางเลือกอื่นเท่านั้น ลองทดสอบด้วยวิธีการให้ผู้พูดอยู่ห่างจากกล้องเพียงสองเมตรก็จะเกิดอาการที่มีแต่เสียงรบกวนอื่นเข้ามาจนฟังเสียงพูดไม่รู้เรื่อง
ไมโครโฟนที่ใช้ติดกล้องส่วนใหญ่นิยมใช้ประเภทช้อตกันไมโครโฟน โดยมีสายนำสัญญาณเสียบเข้ากับตัวกล้อง(external mic.) ตัวไมโครโฟนชนิดนี้สามารถรับเสียงจากระยะไกลได้ดีแต่จำเป็นต้องให้เล็งตรงทิศทางและแม่นยำด้วย ข้อพึงระวังและควรใส่ใจก็คือ ตามปกติแล้วระยะห่างของตัวไมโครโฟนกับแหล่งกำเนิดเสียงถูกตัดสินโดยการเลือกมุมภาพและขนาดของภาพ ประการถัดมาในขณะทีมีการปรับเลนส์เพื่อซูมภาพเข้าออกตำแหน่งของไมโครโฟนยังอยู่ที่เดิมดังนั้นระดับของเสียงที่ได้รับจะเท่ากันตลอด ประการสุดท้ายไมโครโฟนที่ติดอยู่กับกล้องไม่สามารถเลี้ยวหมุนตามบุคคลที่เดินอยู่แล้วเปลี่ยนทิศทางดังนั้นระดับของเสียงและคุณภาพเสียงที่ได้รับย่อมไม่คงที่
ไมโครโฟนชนิดมือถือ
ไมโครโฟนชนิดนี้เป็นแบบที่คุ้นเคยกันดีและมักเห็นได้จากจอโทรทัศน์บ่อยๆไม่ว่าจะเป็นการสัมภาษณ์หรือนักร้องและการบรรยาย มันมีรูปแบบที่เรียบง่ายวิธีการรับเสียงที่สะดวกขึ้นอยู่กับผู้ใช้งาน การจับถือที่เหมาะสมควรอยู่ทีระดับต่ำกว่าไหล่และชี้ด้านปลายไปยังผู้พูดและไม่ก่อให้เกิดความรำคาญเท่าที่จะเป็นได้
เพื่อเป็นการลดเสียงรบกวนที่เกิดจากลมและเสียงลมหายใจหรือเสียงริมฝีปากในขณะทีอยู่ใกล้ชิดกับปากเกินไปควรใช้อุปกรณ์ป้องกันประเภทฟองน้ำห่อหุ้มไว้ด้วย(windshield)และควรพูดผ่านเหนือไมโครโฟนมากกว่าที่จะพูดใส่ตรงหน้าไมโครโฟนจะได้รับคุณภาพเสียงที่ดีกว่า สำหรับไมโครโฟนมือถือชนิดที่มีรูปแบบการรับเสียงชนิด cardioid สามารถช่วยลดเสียงที่ไม่ต้องการด้านหลังได้อยู่แล้วเราจึงสามารถยืดระยะห่างออกจากผู้พูดได้มากกว่า 12 นิ้ว ในขณะที่ไมโครโฟนที่มีรูปแบบการรับสียงชนิด omnidirection จำเป็นต้องอยู่ใกล้กับปากมากกว่าและไม่ควรห่างเกินกว่า 9 นิ้ว
Shotgun microphone
หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า hypercardioid ประกอบด้วยตัวท่อทีเจาะช่องเล็กๆเอาไว้และมีไมโครโฟนแบบคอนเด็นเซอร์ติดตั้งเอาไว้ทีปลายท่ออีกด้านหนึ่ง ไมโครโฟนชนิดนี้ได้รับการออกแบบให้เก็บเสียงด้วยมุมองศาแคบๆ ในขณะทีมีผลต่อเสียงทิศทางด้านอื่นน้อยมากเพื่อทำหน้าที่เก็บเสียงเฉพาะจุดที่ต้องการเท่านั้น ในสถานที่การถ่ายทำที่มีสภาพแวดล้อมแบบมีเสียงก้องกังวานมากแล้วไมโครโฟนชนิดนี้มีข้อดีเพราะสามารถเลือกเก็บเฉพาะเสียงที่ต้องการเท่านั้นในขณะเดียวกันมันยังสามารถลดเสียงไม่ต้องการที่เกิดจากการสะท้อนกลับ แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับตำแหน่งใช้งานและยังขึ้นอยู่กับความถี่เสียงที่แตกต่างอีกด้วย
การนำเอาไมโครโฟนแบบนี้ไปใช้งานควรคำนึงข้อปฏิบัติดังนี้ ควรมีอุปกรณ์จับยึดชนิดป้องกันการสั่นสะเทือนได้ดีและจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ป้องกันเสียงลมควบคู่การใช้งานเสมอในกรณีทีนำไปใช้ภายนอก
เลือกตำแหน่งการวางหรือการถือไมโครโฟนที่ดีที่สุดถ้าเป็นไปได้ควรมีการวางแผนล่วงหน้าไว้ก่อน ในการนี้ผู้ควบคุมไมโครโฟนจำเป็นต้องมองเห็นกิจกรรมโดยไม่มีอะไรมาบดบังและถ้ามีต้องสามารถเคลื่อนย้ายไปตำแหน่งอื่นได้
การใช้ขาบูมจับยึดไมโครโฟน(boompole or fishpole)เริ่มจะเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้นเพื่อใช้ทำการเก็บเสียงทั้งจากภายนอกสถานที่และในห้องสตูดิโอ ด้วยท่อนอลูมิเนียมที่มีความยาวตั้งแต่หกถึงเก้าฟุตสามารถปรับยืดหดได้แล้วติดไมโครโฟนไว้ที่ปลายด้านหนึ่งเพื่อเลือกเก็บรับเสียงจากตำแหน่งใดๆที่ต้องการ
Lavalier or Lapel or Clip-on microphone
ไมโครโฟนประเภทนี้ได้รับความนิยมนำมาใช้ในงานผลิตรายการโทรทัศน์มากขึ้นในกรณีที่ไม่ต้องการให้ผู้ชมสังเกตุเห็นตัวรับเสียงเนื่องจากว่ามันมีขนาดที่เล็กมากจนกระทั่งนำไปติดไว้กับเสื้อผ้าได้เลย แม้ว่าจะมีขนาดเล็กไม่ก่อให้เกิดความรำคาญและมีคุณภาพเสียงที่ดีเยี่ยมก็ตาม แต่การใช้งานก็เป็นต้องใช้อย่างสุขุมรอบคอบเพื่อให้ได้รับประสิทธิผลมากที่สุด เช่นการนำเอาตัวไมโครโฟนไปติดไว้กับเสื้อผ้าแล้วมีเสียงรบกวนจากการขยับตัวของผู้สวมใส่เอง
การนำเอาไมโครโฟนไปติดเสื้อผ้าของผู้ใดก็จะรับเสียงได้จากผู้นั้นเท่านั้น ถ้าหากว่าผู้พูดมีหลายคนก็จำเป็นต้องติดไมโครโฟนทุกคนด้วย ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าไมโครโฟนจะไม่สามารถรับเสียงพูดคนอื่นได้แต่มันจะได้รับคุณภาพของเสียงที่ไม่เท่ากันมากกว่า สำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงรบกวนมากควรใช้อุปกรณ์ป้องกันเสียงลมด้วย
นอกจากใช้งานกับคนแล้วยังสามารถนำไปใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพด้านอื่นอีกด้วยเช่นในงานกีฬา เราสามารถนำเอาไปติดไว้ที่ตาข่ายของประตู หรือถ้าเป็นงานดนตรีก็สามารถนำไปติดไว้ที่ชิ้นส่วนของเครื่องดนตรีนั้นได้เลย
Boundary or pressure zone microphone
เป็นไมโครโฟนชนิดที่มีลักษณะแบนๆสามารถใช้งานเพื่อรับเสียงจากผู้แสดงหรือผู้พูดทีอยู่ห่างออกไปได้ไม่น้อยกว่าหกฟุตและไม่ก่อให้เกิดอาการเสียงที่ปราศจากน้ำหนักดังเช่นไมโครโฟนแบบมือถือ ถึงแม้ว่าไมโครโฟนชนิดนี้จะใช้เทคโนโลยีทีแตกต่างไม่เหมือนกันแต่สามารถนำมาใช้งานได้เหมือนกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานการผลิตละครที่ไม่ต้องการให้เห็นไมโครโฟน(สามารถติดตั้งไว้ด้านหลังฉากได้) นอกจากนี้มันยังเหมาะสมกับการแสดงบนเวทีขนาดใหญ่ที่มีผู้แสดงจำนวนมากอีกด้วย การใช้งานก็ไม่ยุ่งยากแค่เพียงนำไปแขวนห้อยจากเพดาน วางไว้บนพื้น ติดไว้กับเฟอร์นิเจอร์ก็ได้ การรับเสียงจากระยะไกลจะสามารถเพิ่มมากขึ้นเมื่อนำไปติดตั้งไว้กับพื้นผิวแข็งๆ
Wireless microphone
ไมโครโฟนประเภทไร้สายที่ใช้งานกันเป็นส่วนมากคือแบบขนาดเล็กจิ๋วใช้ติดเสื้อที่มีตัวเครื่องส่งเหน็บไว้ที่เข็มขัดกับอีกแบบหนึ่งคือแบบมือถือที่มีเครื่องส่งสัญญาณวิทยุอยู่ภายใน ทั้งสองแบบจะต้องซื้อมาพร้อมกับตัวเครื่องรับที่ได้รับการตั้งช่องความถี่วิทยุให้ตรงกับตัวเครื่องส่ง ไมโครโฟนไร้สายแบบติดเสื้อได้รับความนิยมเพราะว่ามันยินยอมให้ผู้แสดงสามารถเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระไม่จำกัดและยังหลบซ่อนไม่ให้ปรากฏในภาพได้สะดวก
การทำงานของไมโครโฟนแบบนี้ใช้ความถี่วิทยุในการรับส่งสัญญาณเสียงโดยผู้ใช้สามารถเลือกปรับความถี่ที่เหมาะสมดีที่สุดได้ สำหรับการนำไปใช้งานมีข้อควรปฏิบัติดังนี้ เนื่องจากต้องใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 6-10 ชั่วโมงดังนั้นก่อนใช้งานควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าแบตเตอรี่มีพลังงานเพียงพอสามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง ประการถัดมาถ้ามีการใช้งานมากกว่าหนึ่งชุดต้องทำการปรับแต่งให้ใช้ความถี่วิทยุที่ไม่ตรงกัน ประการสุดท้ายควรหลีกเลี่ยงการนำไปใช้งานใกล้กับโครงสร้างที่เป็นโลหะขนาดใหญ่เพราะว่าอาจเกิดปัญหาสัญญาณขาดหาย เสียงเพี้ยนหรืออาจมีสัญญาณรบกวนเกิดขึ้นได้ ถึงแม้ว่าจะมีระบบสายอากาศสองต้น(diversity)ก็ยังหลีกเลี่ยงปัญหาเหล่านี้ได้ยาก
คราวหน้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับอุปกรณ์ปรับแต่งควบคุมเสียงและการใช้งานครับ
ไมโครโฟน
ถึงแม้ว่าคนส่วนใหญ่จะได้พิจารณากล้องวิดีโออย่างละเอียดถี่ถ้วนเพียงใดก็ตามแต่ทว่าคนส่วนมากทั่วไปแล้วจะไม่ได้ให้ความสนใจตัวไมโครโฟนเท่าที่ควร
อย่างมากแค่มองผ่านไปเลยไม่ได้ให้ความสำคัญมากนัก
ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วมันเป็นหัวใจของระบบเสียงของการผลิตรายการโทรทัศน์ ถ้าหากว่ามันไม่ได้มาตรฐานหรือชำรุดเสียหายแม้กระทั่งไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องก็ตาม
คุณภาพของเสียงที่ได้รับออกมาก็จะย่อมไม่สมบูรณ์ไปด้วย และไม่มีระบบการทำงานของระบบเสียงใดๆจะสามารถชดเชยความเสียหายให้กับคุณภาพของเสียงที่ได้รับจากไมโครโฟนที่ไม่สมบูรณ์ได้มีไมโครโฟนให้เลือกใช้งานหลากหลายประเภทและรูปแบบ ทั้งหมดย่อมทำหน้าที่เปลี่ยนคลื่นเสียงให้เป็นพลังงานไฟฟ้า แต่การเลือกนำมาใช้งานต้องศึกษารายละเอียดและคุณสมบัติให้ถี่ถ้วนเพื่อที่จะได้รับผลตรงตามความต้องการ
คุณลักษณะด้านทิศทางการรับเสียง
ไมโครโฟนแต่ละประเภทมีพฤติกรรมที่แตกต่างกันไป บ้างก็ถูกออกแบบให้รับเสียงได้รอบตัวทุกทิศทางในขณะที่อีกประเภทหนึ่งได้รับการออกแบบให้รับเสียงได้เฉพาะทิศทางที่กำหนด สำหรับข้อดีของชนิดที่รับเสียงได้รอบตัวก็คือมันสามารถรับเสียงได้เป็นบริเวณกว้าง ถ้าในกรณีที่ต้องการใช้รับเสียงจากคนกลุ่มใหญ่หรือว่าเป็นคนเดียวแต่เคลื่อนไหวไปรอบบริเวณ แต่ทว่าข้อเสียของมันก็คือไม่สามารถเลือกรับเสียงที่ต้องการหรือหลีกเลี่ยงเสียงที่ไม่ต้องการได้เช่นเสียงรบกวนรอบข้างหรือว่าเสียงที่เกิดจากการสะท้อนกลับมาจากผนัง ดังนั้นการใช้งานจำเป็นต้องให้อยู่ใกล้กับแหล่งกำเนิดเสียงที่ต้องการมากที่สุด ไมโครโฟนชนิดนี้เหมาะสำหรับใช้เก็บเสียงสภาพแวดล้อมตามธรรมชาติ
ในการใช้งานไมโครโฟนชนิดที่มีรูปแบบการรับเสียงแบบทิศทางด้วยการหันด้านรับเสียงไปยังแหล่งกำเนิดเสียง มันสามารถที่จะปฏิเสธการรับเสียงด้านอื่นที่ไม่ต้องการได้ทำให้ได้รับเสียงที่สะอาดแจ่มใส ถ้าพิจารณาในอีกแง่มุมหนึ่งแล้วการใช้งานไมโครโฟนประเภทนี้จำเป็นต้องระมัดระวังเรื่องการหันด้านที่รับเสียงอย่างถูกต้องแม่นยำ และที่สำคัญแหล่งกำเนิดเสียงต้องไม่เคลื่อนไหวออกจากตำแหน่งการรับเสียงด้วย รูปแบบการรับเสียงของไมโครโฟนชนิดมีทิศทางเป็นประเภท cardioid หรือ hyper cardioid จะสามารถจำกัดการรับเสียงจากด้านหลังได้ดี
ไมโครโฟนที่นิยมใช้กัน
การเปลี่ยนพลังงานคลื่นเสียงให้เป็นพลังงานไฟฟ้ามีวิธีการอยู่สองทางเลือกใหญ่เท่านั้นคือ electrodynamic and electrostatic สำหรับชื่อที่รู้จักกันทั่วไปคือไมโครโฟนแบบไดนามิคและไมโครโฟนแบบคอนเด็นเซอร์
ไดนามิคไมโครโฟนส่วนใหญ่มักแข็งแรงทนทานและให้คุณภาพเสียงดี เสียงไม่ค่อยเพี้ยนได้ง่ายในกรณีที่รับเสียงค่อนข้างดังเช่นนำไปไว้รับเสียงกลอง ไมโครโฟนเหล่านี้ต้องการการดูแลรักษาพอประมาณสามารถจับถือด้วยมือโดยไม่ก่อให้เกิดปัญหาเสียงรบกวนที่เกิดจากมือผู้ใช้ หรืออาจนำไปใช้งานแบบติดตั้งเข้ากับขาตั้งก็ได้
สำหรับคอนเด็นเซอร์ไมโครโฟนสามารถให้คุณภาพเสียงที่สูงมากและมีความเหมาะสมสำหรับใช้เก็บเสียงจากเครื่องดนตรีแทบทุกชนิด จุดเด่นที่สำคัญของมันก็คือสามารถทำให้มีขนาดเล็กมากมีความเหมาะสมในการทำงานสำหรับวิดีโอได้ดี โดยปกติแล้วจำเป็นต้องมีแหล่งจ่ายไฟฟ้าให้กับมันด้วยอาจเป็นแบตเตอรี่ขนาดเล็กหรือจากแหล่งจ่ายไฟภายนอกก็ได้ นอกจากนี้ยังมีชนิดที่ไม่จำเป็นต้องใช้แหล่งจ่ายพลังงานให้ก็มีเพราะว่าทางโรงงานผู้ผลิตได้ทำการประจุพลังงานแบบถาวรมาให้แล้ว ไมโครโฟนชนิดนี้มีชื่อเรียกว่า electret condenser microphone
ขาจับขาตั้งและสิ่งที่รองรับไมโครโฟน
ไมโครโฟนติดกล้องถ้าหากว่าตัวกล้องมีไมโครโฟนติดมาด้วย ในทางทฤษฎีแล้วเมื่อเราหันกล้องไปจับภาพตรงไหนตัวไมโครโฟนก็ควรรับเสียงอย่างมีคุณภาพของบริเวณนั้นด้วย แต่ทว่าอย่างไรก็ดีทั้งหมดขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและรูปแบบของเสียงที่เกี่ยวข้อง ไม่มีอะไรที่จะสมบูรณ์พร้อมไปทุกอย่างแม้ว่าเราจะใช้ไมโครโฟนคุณภาพสูงและติดตั้งอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมก็ตาม การทำงานแบบตัวคนเดียวและเคลื่อนไหวตำแหน่งและมุมกล้องไปรอบๆตลอดเวลาย่อมทำให้เสียงที่ได้รับแตกต่างกันไปด้วย
รูปแบบอย่างง่ายที่สุดของไมโครโฟนติดกล้องก็คือมีขนาดเล็กและติดไว้ด้านหน้าของตัวกล้อง ตัวไมโครโฟนแบบนี้ย่อมเก็บเสียงทีอยู่รอบตัวกล้องไปด้วย รวมทั้งเสียงรบกวนที่เกิดจากการทำงานของเลนส์ซูมและรวมไปถึงเสียงที่เกิดจากตัวช่างกล้องเอง ข้อควรระวังของไมโครโฟนประเภทนี้ก็คือมันเหมาะสมต่อการใช้งานเก็บเสียงบรรยากาศสภาพแวดล้อมเช่นสภาพการจราจรหรือฝูงชนและเกือบจะดีพอถ้าให้ผู้พูดอยู่ใกล้ตำแหน่งไมโครโฟนมากๆ มันควรจะถูกใช้งานสำหรับเสียงคนพูดก็ต่อเมื่อไม่มีทางเลือกอื่นเท่านั้น ลองทดสอบด้วยวิธีการให้ผู้พูดอยู่ห่างจากกล้องเพียงสองเมตรก็จะเกิดอาการที่มีแต่เสียงรบกวนอื่นเข้ามาจนฟังเสียงพูดไม่รู้เรื่อง
ไมโครโฟนที่ใช้ติดกล้องส่วนใหญ่นิยมใช้ประเภทช้อตกันไมโครโฟน โดยมีสายนำสัญญาณเสียบเข้ากับตัวกล้อง(external mic.) ตัวไมโครโฟนชนิดนี้สามารถรับเสียงจากระยะไกลได้ดีแต่จำเป็นต้องให้เล็งตรงทิศทางและแม่นยำด้วย ข้อพึงระวังและควรใส่ใจก็คือ ตามปกติแล้วระยะห่างของตัวไมโครโฟนกับแหล่งกำเนิดเสียงถูกตัดสินโดยการเลือกมุมภาพและขนาดของภาพ ประการถัดมาในขณะทีมีการปรับเลนส์เพื่อซูมภาพเข้าออกตำแหน่งของไมโครโฟนยังอยู่ที่เดิมดังนั้นระดับของเสียงที่ได้รับจะเท่ากันตลอด ประการสุดท้ายไมโครโฟนที่ติดอยู่กับกล้องไม่สามารถเลี้ยวหมุนตามบุคคลที่เดินอยู่แล้วเปลี่ยนทิศทางดังนั้นระดับของเสียงและคุณภาพเสียงที่ได้รับย่อมไม่คงที่
ไมโครโฟนชนิดมือถือ
ไมโครโฟนชนิดนี้เป็นแบบที่คุ้นเคยกันดีและมักเห็นได้จากจอโทรทัศน์บ่อยๆไม่ว่าจะเป็นการสัมภาษณ์หรือนักร้องและการบรรยาย มันมีรูปแบบที่เรียบง่ายวิธีการรับเสียงที่สะดวกขึ้นอยู่กับผู้ใช้งาน การจับถือที่เหมาะสมควรอยู่ทีระดับต่ำกว่าไหล่และชี้ด้านปลายไปยังผู้พูดและไม่ก่อให้เกิดความรำคาญเท่าที่จะเป็นได้
เพื่อเป็นการลดเสียงรบกวนที่เกิดจากลมและเสียงลมหายใจหรือเสียงริมฝีปากในขณะทีอยู่ใกล้ชิดกับปากเกินไปควรใช้อุปกรณ์ป้องกันประเภทฟองน้ำห่อหุ้มไว้ด้วย(windshield)และควรพูดผ่านเหนือไมโครโฟนมากกว่าที่จะพูดใส่ตรงหน้าไมโครโฟนจะได้รับคุณภาพเสียงที่ดีกว่า สำหรับไมโครโฟนมือถือชนิดที่มีรูปแบบการรับเสียงชนิด cardioid สามารถช่วยลดเสียงที่ไม่ต้องการด้านหลังได้อยู่แล้วเราจึงสามารถยืดระยะห่างออกจากผู้พูดได้มากกว่า 12 นิ้ว ในขณะที่ไมโครโฟนที่มีรูปแบบการรับสียงชนิด omnidirection จำเป็นต้องอยู่ใกล้กับปากมากกว่าและไม่ควรห่างเกินกว่า 9 นิ้ว
Shotgun microphone
หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า hypercardioid ประกอบด้วยตัวท่อทีเจาะช่องเล็กๆเอาไว้และมีไมโครโฟนแบบคอนเด็นเซอร์ติดตั้งเอาไว้ทีปลายท่ออีกด้านหนึ่ง ไมโครโฟนชนิดนี้ได้รับการออกแบบให้เก็บเสียงด้วยมุมองศาแคบๆ ในขณะทีมีผลต่อเสียงทิศทางด้านอื่นน้อยมากเพื่อทำหน้าที่เก็บเสียงเฉพาะจุดที่ต้องการเท่านั้น ในสถานที่การถ่ายทำที่มีสภาพแวดล้อมแบบมีเสียงก้องกังวานมากแล้วไมโครโฟนชนิดนี้มีข้อดีเพราะสามารถเลือกเก็บเฉพาะเสียงที่ต้องการเท่านั้นในขณะเดียวกันมันยังสามารถลดเสียงไม่ต้องการที่เกิดจากการสะท้อนกลับ แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับตำแหน่งใช้งานและยังขึ้นอยู่กับความถี่เสียงที่แตกต่างอีกด้วย
การนำเอาไมโครโฟนแบบนี้ไปใช้งานควรคำนึงข้อปฏิบัติดังนี้ ควรมีอุปกรณ์จับยึดชนิดป้องกันการสั่นสะเทือนได้ดีและจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ป้องกันเสียงลมควบคู่การใช้งานเสมอในกรณีทีนำไปใช้ภายนอก
เลือกตำแหน่งการวางหรือการถือไมโครโฟนที่ดีที่สุดถ้าเป็นไปได้ควรมีการวางแผนล่วงหน้าไว้ก่อน ในการนี้ผู้ควบคุมไมโครโฟนจำเป็นต้องมองเห็นกิจกรรมโดยไม่มีอะไรมาบดบังและถ้ามีต้องสามารถเคลื่อนย้ายไปตำแหน่งอื่นได้
การใช้ขาบูมจับยึดไมโครโฟน(boompole or fishpole)เริ่มจะเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้นเพื่อใช้ทำการเก็บเสียงทั้งจากภายนอกสถานที่และในห้องสตูดิโอ ด้วยท่อนอลูมิเนียมที่มีความยาวตั้งแต่หกถึงเก้าฟุตสามารถปรับยืดหดได้แล้วติดไมโครโฟนไว้ที่ปลายด้านหนึ่งเพื่อเลือกเก็บรับเสียงจากตำแหน่งใดๆที่ต้องการ
Lavalier or Lapel or Clip-on microphone
ไมโครโฟนประเภทนี้ได้รับความนิยมนำมาใช้ในงานผลิตรายการโทรทัศน์มากขึ้นในกรณีที่ไม่ต้องการให้ผู้ชมสังเกตุเห็นตัวรับเสียงเนื่องจากว่ามันมีขนาดที่เล็กมากจนกระทั่งนำไปติดไว้กับเสื้อผ้าได้เลย แม้ว่าจะมีขนาดเล็กไม่ก่อให้เกิดความรำคาญและมีคุณภาพเสียงที่ดีเยี่ยมก็ตาม แต่การใช้งานก็เป็นต้องใช้อย่างสุขุมรอบคอบเพื่อให้ได้รับประสิทธิผลมากที่สุด เช่นการนำเอาตัวไมโครโฟนไปติดไว้กับเสื้อผ้าแล้วมีเสียงรบกวนจากการขยับตัวของผู้สวมใส่เอง
การนำเอาไมโครโฟนไปติดเสื้อผ้าของผู้ใดก็จะรับเสียงได้จากผู้นั้นเท่านั้น ถ้าหากว่าผู้พูดมีหลายคนก็จำเป็นต้องติดไมโครโฟนทุกคนด้วย ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าไมโครโฟนจะไม่สามารถรับเสียงพูดคนอื่นได้แต่มันจะได้รับคุณภาพของเสียงที่ไม่เท่ากันมากกว่า สำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงรบกวนมากควรใช้อุปกรณ์ป้องกันเสียงลมด้วย
นอกจากใช้งานกับคนแล้วยังสามารถนำไปใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพด้านอื่นอีกด้วยเช่นในงานกีฬา เราสามารถนำเอาไปติดไว้ที่ตาข่ายของประตู หรือถ้าเป็นงานดนตรีก็สามารถนำไปติดไว้ที่ชิ้นส่วนของเครื่องดนตรีนั้นได้เลย
Boundary or pressure zone microphone
เป็นไมโครโฟนชนิดที่มีลักษณะแบนๆสามารถใช้งานเพื่อรับเสียงจากผู้แสดงหรือผู้พูดทีอยู่ห่างออกไปได้ไม่น้อยกว่าหกฟุตและไม่ก่อให้เกิดอาการเสียงที่ปราศจากน้ำหนักดังเช่นไมโครโฟนแบบมือถือ ถึงแม้ว่าไมโครโฟนชนิดนี้จะใช้เทคโนโลยีทีแตกต่างไม่เหมือนกันแต่สามารถนำมาใช้งานได้เหมือนกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานการผลิตละครที่ไม่ต้องการให้เห็นไมโครโฟน(สามารถติดตั้งไว้ด้านหลังฉากได้) นอกจากนี้มันยังเหมาะสมกับการแสดงบนเวทีขนาดใหญ่ที่มีผู้แสดงจำนวนมากอีกด้วย การใช้งานก็ไม่ยุ่งยากแค่เพียงนำไปแขวนห้อยจากเพดาน วางไว้บนพื้น ติดไว้กับเฟอร์นิเจอร์ก็ได้ การรับเสียงจากระยะไกลจะสามารถเพิ่มมากขึ้นเมื่อนำไปติดตั้งไว้กับพื้นผิวแข็งๆ
Wireless microphone
ไมโครโฟนประเภทไร้สายที่ใช้งานกันเป็นส่วนมากคือแบบขนาดเล็กจิ๋วใช้ติดเสื้อที่มีตัวเครื่องส่งเหน็บไว้ที่เข็มขัดกับอีกแบบหนึ่งคือแบบมือถือที่มีเครื่องส่งสัญญาณวิทยุอยู่ภายใน ทั้งสองแบบจะต้องซื้อมาพร้อมกับตัวเครื่องรับที่ได้รับการตั้งช่องความถี่วิทยุให้ตรงกับตัวเครื่องส่ง ไมโครโฟนไร้สายแบบติดเสื้อได้รับความนิยมเพราะว่ามันยินยอมให้ผู้แสดงสามารถเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระไม่จำกัดและยังหลบซ่อนไม่ให้ปรากฏในภาพได้สะดวก
การทำงานของไมโครโฟนแบบนี้ใช้ความถี่วิทยุในการรับส่งสัญญาณเสียงโดยผู้ใช้สามารถเลือกปรับความถี่ที่เหมาะสมดีที่สุดได้ สำหรับการนำไปใช้งานมีข้อควรปฏิบัติดังนี้ เนื่องจากต้องใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 6-10 ชั่วโมงดังนั้นก่อนใช้งานควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าแบตเตอรี่มีพลังงานเพียงพอสามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง ประการถัดมาถ้ามีการใช้งานมากกว่าหนึ่งชุดต้องทำการปรับแต่งให้ใช้ความถี่วิทยุที่ไม่ตรงกัน ประการสุดท้ายควรหลีกเลี่ยงการนำไปใช้งานใกล้กับโครงสร้างที่เป็นโลหะขนาดใหญ่เพราะว่าอาจเกิดปัญหาสัญญาณขาดหาย เสียงเพี้ยนหรืออาจมีสัญญาณรบกวนเกิดขึ้นได้ ถึงแม้ว่าจะมีระบบสายอากาศสองต้น(diversity)ก็ยังหลีกเลี่ยงปัญหาเหล่านี้ได้ยาก
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น