Internet of Things เมื่อทุกสิ่งเชื่อมโยงกัน


Internet of Things
เมื่อทุกสิ่งเชื่อมโยงกัน
          ปัจจุบันนี้มีเครื่องมือและอุปกรณ์ข้าวของเครื่องใช้ที่เป็นส่วนประกอบของระบบการประมวลผลแบบคอมพิวเตอร์เป็นจำนวนมากเช่น โทรศัพท์แบบสมาร์ทโฟน สมาร์ททีวี ตู้เย็นหรือเครื่องซักผ้าที่ต่ออินเตอร์เน็ทได้รวมไปถึงอุปกรณ์สวมใส่เช่น สมาร์ทวอทช์ กูเกิ้ลอาย สายรัดข้อมือที่สามารถตรวจสอบชีพจรการนอนหลับแม้กระทั่งรองเท้าที่ตรวจนับจำนวนก้าวเดิน อุปกรณ์เหล่านี้ล้วนมีระบบติดต่อสื่อสารกับอุปกรณ์อื่นๆในรูปแบบต่างกันเช่นผ่านระบบสาย LAN หรือระบบไร้สาย Wi-Fi , Bluetooth เป็นต้น และคาดการณ์ว่าในอนาคตอุปกรณ์เหล่านี้จะสามารถติดต่อสื่อสารกันได้เองในรูปแบบของการติดต่อระหว่างอุปกรณ์กับอุปกรณ์ด้วยกัน (machine-to-machine communications) มีชื่อย่อว่าระบบ M2M ที่ครอบคลุมทุกมาตรฐานวิธีการทำงานที่หลากหลาย มีขอบเขตที่น่าสนใจและการนำไปใช้งานในชีวิตประจำวัน และยังสามารถทำงานแบบอัตโนมัติในแทบทุกด้าน
          วัตถุสิ่งของในเรื่องนี้สามารถเกี่ยวโยงไปถึงอุปกรณ์หลากหลายเช่นเครื่องตรวจสอบการทำงานของหัวใจที่สามารถรายงานไปยังหมอได้ตลอดเวลาที่มีอาการผิดปกติ ระบบตรวจสอบสภาพของโรงเลี้ยงสัตว์ในฟาร์ม ระบบตรวจจับที่ติดตั้งในยานพาหนะหรือระบบแจ้งเตือนอัคคีภัยและระบบป้องกันการโจรกรรม ที่บางสิ่งเหล่านี้เริ่มมีการจำหน่ายเชิงการค้าบ้างแล้ว
          ตามการทำนายของบริษัทบางแห่งแล้วคาดการณ์ว่าภายในปี 2020 จะมีอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกันด้วยระบบเครือข่ายประมาณยี่สิบหกพันล้านชิ้น ในขณะที่อีกหน่วยงานหนึ่งประมาณการว่าจะมี่อุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกันแบบไร้สายมากกว่าสามสิบล้านชิ้นภายในปีที่ว่านั้น การหลอมรวมเข้ากับระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ทของอุปกรณ์เหล่านั้นย่อมหมายถึงว่าอุปกรณ์แต่ละชิ้นจำเป็นต้องมีที่อยู่ในระบบ IP เพื่อเป็นตัวบ่งชี้ แต่ทว่ายังมีข้อจำกัดจำนวนที่อยู่ของ IPv4 ที่มีเพียงสี่จุดสามพันล้านเลขหมายที่อยู่ ดังนั้นในอนาคตจึงจำเป็นต้องใช้ระบบของ IPv6 ที่สามารถรองรับหมายเลข IP จำนวนมหาศาลในอนาคตได้ จำนวนของวัตถุทุกสิ่งที่มีการเชื่อมโยงกันเป็นเครือข่ายเหล่านี้ไม่ได้จำกัดเฉพาะระบบตรวจจับเท่านั้นแต่รวมไปถึงอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่ตอบสนองต่อการควบคุมและสั่งการด้วย เช่น หลอดไฟ ระบบล้อคกุญแจ และอุปกรณ์อื่นๆ
          ด้วยระบบประมวลผลชนิดที่มีสมองกลขนาดเล็กที่ฝังตัวอยู่ในอุปกรณ์เหล่านี้ย่อมหมายความว่าเป็นการใช้วิธีประเมินผลด้วยคอมพิวเตอร์ที่อยู่บนพื้นฐานราคาประหยัด ตามความเป็นจริงแล้วเพื่อเป็นการลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและการอนุรักษ์พลังงาน เช่นด้วยการใช้กำลังส่งวิทยุเพียงเล็กน้อย เป็นต้น อย่างไรก็ดีอุปกรณ์เหล่านี้เองไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในวัตถุประสงค์เพื่อการประมวลผลหรือภาระงานที่หนักหรือมีความยุ่งยากเป็นพิเศษอยู่แล้ว

          ภายใต้สภาวะของการนำไปใช้งานที่เชื่อมต่อกับโครงข่ายอินเตอร์เน็ทด้วยอุปกรณ์ใหม่ๆที่หลากหลายและขยายขอบเขตมากยิ่งขึ้นเหล่านี้ ย่อมเป็นที่คาดการณ์ได้ว่าก่อให้เกิดปริมาณของข้อมูลจำนวนมหาศาลจากพื้นที่ต่างๆที่จำเป็นต้องมีการจัดหมวดหมู่ การจัดเก็บและประมวลผลให้ดีกว่าเดิมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Automation solution

การจัดแสงไฟสำหรับการถ่ายวิดีโอ (Video Lighting Technique)

การถ่ายทอดสดนอกสถานที่(Outside Broadcasting)